1. ทองคำและเงินแท่งคือ "เงินของพระเจ้า"
ในยุคที่เศรษฐกิจโลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน การพิมพ์เงินจำนวนมหาศาล และการเสื่อมค่าของสกุลเงินกระดาษ "ทองคำ" และ "เงินแท่ง" ได้กลับมาเป็นที่สนใจในหมู่นักลงทุนอีกครั้ง โดยเฉพาะจากนักคิดอย่าง Robert Kiyosaki ผู้เขียนหนังสือ Rich Dad Poor Dad ที่กล่าวไว้ชัดเจนว่า "ทองคำคือเงินของพระเจ้า (God's Money) ส่วนเงินกระดาษคือเงินปลอม (Fake Money)"
ตามแนวคิดของ Kiyosaki เงินในโลกนี้แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก:
เงินของพระเจ้า (God's Money): ทองคำและเงินแท่ง ซึ่งไม่สามารถผลิตเพิ่มได้ และมีมูลค่าตั้งแต่ยุคโบราณ
เงินของรัฐบาล (Fiat Currency): ดอลลาร์ เยน ยูโร ฯลฯ เป็นเพียงกระดาษที่พิมพ์ขึ้นโดยไม่มีสินทรัพย์รองรับ
สินทรัพย์ปลอม (Fake Assets): เช่น ETF หุ้นบางประเภทที่ไม่มีพื้นฐานมั่นคง
ไม่เสื่อมค่า: ทองคำและเงินแท่งจะยังคงมีมูลค่า แม้ในยามที่เศรษฐกิจล่มสลาย
ไม่สามารถปลอมแปลงได้: ต่างจากเงินกระดาษหรือ ETF ที่อาจถูกจัดการเบื้องหลัง
ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ: ทองคำและเงินแท่งสามารถรักษามูลค่าได้แม้ค่าเงินจะอ่อนตัว
เป็นเครื่องมือป้องกันความมั่งคั่งในระยะยาว: โดยเฉพาะในยุคที่อัตราดอกเบี้ยต่ำและนโยบายการเงินผ่อนคลาย
Kiyosaki ย้อนความไปถึงเหตุการณ์ในปี 1971 เมื่อประธานาธิบดี Nixon ยกเลิกการผูกค่าเงินดอลลาร์กับทองคำ ทำให้เงินดอลลาร์กลายเป็นเงินกระดาษที่ไม่มีสินทรัพย์รองรับอีกต่อไป ตั้งแต่นั้นมา ระบบการเงินทั่วโลกก็เริ่มเสื่อมลงจากการพิมพ์เงินไม่จำกัด ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของเศรษฐกิจในระยะยาว
ในอดีต Warren Buffett เคยตัดสินใจขายหุ้นธนาคารและสายการบิน แล้วเข้าลงทุนในบริษัทเหมืองทองคำอย่าง Barrick Gold ซึ่งในเวลานั้นถูกมองว่าเป็นการเปลี่ยนจุดยืนครั้งใหญ่ เนื่องจากเขามักไม่สนับสนุนการถือครองทองคำ แต่แม้เหตุการณ์นี้จะผ่านมาแล้วหลายปี มันยังคงเป็นตัวอย่างที่ดีของการตื่นตัวต่อความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจ และสะท้อนให้เห็นว่าทองคำยังคงมีบทบาทสำคัญในยุทธศาสตร์การปกป้องความมั่งคั่งของนักลงทุนระดับโลก
Robert Kiyosaki ยังแนะนำให้พิจารณา Bitcoin ร่วมกับทองคำและเงินแท่ง โดยเขามองว่า Bitcoin คือ "เงินของประชาชน" ซึ่งไม่สามารถควบคุมได้โดยรัฐบาลหรือธนาคารกลาง ต่างจากเงินกระดาษที่ถูกควบคุมและสร้างขึ้นได้ตามอำเภอใจ
Kiyosaki แนะนำคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะชาวมิลเลนเนียลว่า หากไม่สามารถซื้อทองคำได้ทันที การเริ่มต้นจากการเก็บเงินแท่งเล็ก ๆ (เช่น เหรียญเงินมูลค่าไม่กี่ร้อยบาท) ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน
"คุณจะเลือกเก็บเงินปลอมที่ลดค่าลงทุกวัน หรือจะเก็บเหรียญเงินแท้ที่มูลค่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ?"
ในขณะที่หลายคนเลือกเก็บเงินในธนาคารหรือซื้อสินทรัพย์ดิจิทัล ทองคำและเงินแท่งยังคงเป็นตัวเลือกที่มั่นคง ไม่ว่าจะในยามสงคราม ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ หรือเงินเฟ้อรุนแรง
นักลงทุนทั่วโลกถือทองคำเป็นทรัพย์สินปลอดภัย (Safe Haven Asset)
ธนาคารกลางของหลายประเทศยังคงสำรองทองคำไว้เพิ่มขึ้นทุกปี
ความต้องการทองคำจากอุตสาหกรรม เครื่องประดับ และการลงทุนยังคงสูง
ดังนั้น การลงทุนในทองคำจึงไม่ใช่แค่การเก็บทรัพย์สิน แต่คือการรักษาอำนาจการซื้อและความมั่นคงในระยะยาว
การถือทองคำ เงินแท่ง และ Bitcoin คือการตัดสินใจเพื่อปกป้องทรัพย์สินจากความไม่แน่นอนในระบบการเงินโลก โดยเฉพาะในช่วงที่มีวิกฤตโรคระบาด ภาวะเงินเฟ้อ และความเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบายการเงิน นักลงทุนที่ตื่นรู้จะไม่เพียงแค่ “ออมเงิน” แต่จะ “ออมในสินทรัพย์แท้” เพื่ออนาคตที่มั่นคง
อ้างอิง:
Kiyosaki, R. (2020). Why You Should Buy Gold and Silver [YouTube Video]. The Rich Dad Channel.
https://www.youtube.com/watch?v=D-rMb9Znfn8
ข้อสงวนสิทธิ์:
บทความหรือข่าวสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น โดยเนื้อหาอาจจัดทำขึ้นโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสรุปข้อมูลจากแหล่งข่าวต่าง ๆ ที่เปิดเผยต่อสาธารณะ หรือเรียบเรียงจากความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ทั้งนี้ มิได้เป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือการซื้อขายทองคำ สินทรัพย์ หรือหลักทรัพย์ใด ๆ ผู้จัดทำได้พยายามตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอย่างเต็มที่ แต่อาจมีความคลาดเคลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงได้ตามเวลา และขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่ากรณีใด